• ปรับขนาด
    ตัวอักษร
 
แหล่งท่องเที่ยว
หลวงพ่อผุด วัดนันทาราม
21 สิงหาคม 2561
หลวงพ่อผุด วัดนันทาราม        เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดง เป็นพระคู่บ้านคู่เมือวอีกองค์ ที่เคารพสักการะของชาวปากพนัวและแขกผู้มาเยือน ตำนานหลวงพ่อผุดมาจาก คำบอกเล่าบุรพชนผู้เฒ่าผุ้แก่อีกต่อหนึ่ง วัดเกิดเหตุตรงกับวันจันทร์เดือน 8 แรม 13 ค่ำ ปีมะเมีย ตรงกับ พ.ศ. 2404 ในคืนนั้น เวลาราวเที่ยงคืน ฝนตกหนักฟ้าคะนองทันใดนั้นอัสนีบาต ผ่าเปรี้ยงลงที่ต้นทองหลาง ใกล้วิหาร เกิดไฟลุกโชติช่วงต้นทางหลางกิ่งก้านหักโค่น ลงมาอยู่ที่โคนต้น สักพักไฟที่ต้นทองหลางก็มอดลงพระทุกรูปที่รวมกันอยู่บนกุฏิไม่มีใครกล้าลงไปดู         รุ่งเช้าทุกคนต่างก็มุ่งไปดูที่เกิดเหตุ คงเห็นรอยไหม้ดำๆ ด่างๆ บนกิ่งทองหลางที่หักโค่นลงมา จึงให้ศิษย์นำเครื่องมือมาช่วยกันฟัน กิ่งทองหลางทิ้งคลอง บังเอิญำนายทองใส (ชาวบ้าน) เดินไปสดุด สิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นผุดขึ้นมา ประมาณองคุลีกว่าๆ ก้มเห็นเกศพระพุทธรูป ท่านสมภารสั่งว่าให้รอการขุดไว้ก่อนแล้วสั่งให้ไปตามคฤหัสถ์อันเป็นผุ้ใหญ่ที่นับถือ เพื่อขอปรึกษาเรื่องนี้ด้วย คือ สี่จัน(ต้นตระกูลจันทพันธุ์) นายไชยทอง หมื่นราชสมโพธิ์ ก็เข้ามาตรวจพระพุทธรูปและกราบไหว้ด้วย เบญจางคประดิษฐ์ ต่างชมว่าพระพุทธรูปมีลักษณะงามอย่างยิ่งทุกๆ ส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือดินไม่มีชำรุดเสียเลย จึงได้รายงานต่อเจ้าหน้ากรมศาสนา        ปัจจุบัน "องค์หลวงพ่อผุด" ประดิษฐาน ณ วัดนันทาราม (วัดใต้ฝั่งตะวันออก) ถนนชายน้ำ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช  หลวงพ่อโอภาสี        หลวงพ่อโอภาสี มีนามเดิมว่า ชวน เกิดที่บ้านเลขที่ 394 ซอยพิศาล ถนนชายน้ำ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เมือ พ.ศ. 2441 เป็นบุตรคนโตของพ่อมิตร และแม่ล้วน มลิพันธ์ ในจำนวนพี่น้อง 8 คน เมืออายุได้ 5 ขวบ บิดาได้ไปฝากไว้กับพระครูนนท์จรรยาวัตต์ (พระอธิการช่วย) เจ้าอาวาสวัดนันทาราม (วัดใต้ฝั่งตะวันออก) อ.ปากพนัง และต่อมาได้บรรพชาเป็นสามเณร เดินทางมาศึกษาต่อที่วัดท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กับพระรัตนธัชมุนี (ท่านเจ้าคุณวัดท่าโพธิ์) และจากนั้นก็ได่มาพำนักที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ศึกษาจนสอบได้นักธรรมเอกและเปรียญ 8 ประโยค จนรอบรู้แตกฉานในพระปริวัติธรรม ภาษาบาลี สันสกฤต และมคธ ภาษาอัวกฤษ ภาษาฮินดู อย่างไม่น่าเชื่อ        ท่านมหาชวนเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง เทศน์เก่ง มีความจำเป็นเยี่ยม เป็นครูสอนภาษาบาลีอย่างดียิ่ง และมีความขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ เมื่อสอบได้ 8 ประโยคแล้วท่านได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ ปิดประตูอยู่ในกุฏิด้วยความสงบเงียบ เมื่อยามค่ำคืนดึกดื่น ท่านมหาชวนจะออกจากกุฏิมุ่งไปยังโคนต้นไม้ นั่งสมถกรรมฐาน จนไก่ขันใกล้รุ่งจึงกลับขึ้นกุฏิปิดประตูเงียบตามเดิม และปฏิบัติอย่างนี้ เป็นเวลาช้านาน จนวันหนึ่งท่านประกาศแก่ผู้คนทั้งหลายว่า         "ท่านมหาชวนได้ตายไปแล้ว บัดนี้เหลือแต่โอภาสี ผู้ไม่ปรารถนาจะศึกษาพระอภิธรรมเท่านั้น แต่ยังมีความปราถนาในความหมดสิ้นจากอาสวะทั้งปวงอีกด้วย"