"บรรดาเมืองท่าในแหลมมาลายูฝั่งตะวันออก เห็นจะไม่มีเมืองใดดีกว่าปากพนัง"
ย้อนอดีตขึ้นไปสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ปรากฏ ชื่อ "เมืองพนัง" ในทำเนียบข้าราชการเมืองนครศรีธรรมราช อีกทั้งยังมีการค้นพบเครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัย และอื่นๆ จมอยู่ใต้ทะเลฝั่งปากพนังเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีเงินตราที่ผลิตขึ้นใช้เอง เรียกว่า "อีแปะปากพนัง" และยังมีห้างอี๊สต์เอเชียติ๊กของเดนมาร์กเข้าไปตั้งเอเยนต์ค้าขายอีกด้วย สินค้าสำคัญคือ ข้าว ส่งขายต่างประเทศ ปัจจุบันคงเหลือร่องรอยของปล่องโรงสีไฟเก่าเรียงรายไปตามลำน้ำ ซึ่งถือว่า แม่น้ำปากพนัง ยังคงมีสภาพที่สวยงามตามธรรมชาติ และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าล่องเรือเที่ยวชม